Mental block ทำอย่างไรเมื่อ "เขียนไม่ออก"
- Nappaphan Kunanusont
- Oct 23, 2024
- 2 min read
Updated: Nov 4, 2024
บทความนี้ได้รับการช่วยเหลือจาก Rover AI, ChatGPT-4o mini, และ Gemini 1.5 Flash โดยสอบถามเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567
หลาย ๆ คนคงเคยประสบปัญหา "เขียนไม่ออก" แม้แต่ผู้เขียนเองตอนที่เขียนบทความนี้ก็ประสบเช่นกัน อาการเขียนไม่ออก หรือ Writer block หรือ Mental Block เกิดขึ้นเมื่อเราพยายามจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป จนทำให้ไม่สามารถเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ หรือเกิดความเครียดมากเกินไป สาเหตุของการ "เขียนไม่ออก" มาจากอะไร และแนวทางแก้ไขเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

Mental Block หรือ Writer Block หรือภาวะสมองตัน คือ ภาวะที่สมองหยุดทำงานชั่วคราว ทำให้เกิดอาการคิดไม่ออก ไม่แม้แต่จะอยากทำอะไร อาการนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ การทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน สาเหตุของภาวะสมองตันส่วนมากมาจากความเครียด ความกังวล ซึ่งอาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีอาการป่วย โดยบางครั้งอาจเกิดจากการทำงานที่มีความเครียดความกดดันสูง ซึ่งพบมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากลักษณะการทำงานที่ต้องรีบเร่ง รวมไปถึงการเน้นความสร้างสรรค์ในตัวงาน (สร้างคอนเทนต์) ต่อไปนี้เป็นสาเหตุของอาการเขียนไม่ออก และแนวทางการแก้ไข
สาเหตุของ Mental Block
Mental Block เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตัวอย่างที่พบบ่อย เช่น
ความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้สมองทำงานช้าลง คิดอะไรไม่ออก
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อความสามารถในการจดจ่อ ทำให้สมองทำงานช้าลง
ความกังวล: ความกังวล ส่งผลต่อความคิด ทำให้สมองหมกมุ่นอยู่กับปัญหา คิดอะไรไม่ออก
ความเบื่อหน่าย: การทำงานซ้ำๆ หรือทำสิ่งที่ไม่ชอบ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ส่งผลต่อความสนใจ คิดอะไรไม่ออก
ปัญหาสุขภาพ: โรคบางชนิด เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิด Mental Block
วิธีเอาชนะ Mental Block
เมื่อเกิด Mental Block ลองทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อเอาชนะมัน:
พัก: หยุดพักจากสิ่งที่ทำอยู่ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ หรือออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ การพักช่วยให้สมองได้ผ่อนคลาย คิดอะไรได้
เปลี่ยนบรรยากาศ: ลองเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ไปนั่งทำงานในที่อื่น หรือหาอะไรใหม่ๆ ทำ การเปลี่ยนบรรยากาศช่วยกระตุ้นสมอง คิดอะไรได้
ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย: หากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ เล่นกีฬา การทำกิจกรรมผ่อนคลายช่วยลดความเครียด ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
พูดคุยกับใครสักคน: พูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญ การพูดคุยช่วยให้ระบายความรู้สึก และอาจได้คำแนะนำดีๆ
ตั้งเป้าหมายย่อย: แบ่งงานใหญ่ๆ ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ จะช่วยให้รู้สึกท้าทาย และมีแรงจูงใจมากขึ้น
ให้รางวัลกับตัวเอง: เมื่อบรรลุเป้าหมาย ให้รางวัลกับตัวเอง เป็นการกระตุ้นให้ทำงานต่อไป
ปรึกษาแพทย์: หาก Mental Block เกิดขึ้นบ่อย หรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษา
เคล็ดลับที่ 1 - พักสมอง เปลี่ยนบรรยากาศ
- ลุกออกจากโต๊ะทำงานและเปลี่ยนบรรยากาศ
- เดินเล่นในที่โล่ง สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ธรรมชาติ
- ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือเล่น
การหยุดพักจากสิ่งที่ทำอยู่ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ หรือออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ การพักช่วยให้สมองได้ผ่อนคลาย คิดอะไรได้

เคล็ดลับที่ 2 - เปลี่ยนมุมมอง
- ในเมื่อคิดไม่ออกแล้วให้ลองเปลี่ยนมุมมอง โดยลองมองปัญหาจากมุมมองของคนอื่น ตัวอย่างเช่น ถ้าเขียนบทนำของวิทยานิพนธ์ไม่ออก ให้คิดว่า ถ้าเราเป็นผู้อ่านงานที่เรากำลังเขียน เราต้องการจะทราบอะไรเพื่อที่เราจะเข้าใจหัวข้อนี้มากขึ้น
- ปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้างเพื่อขอความคิดเห็นใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะปรึกษาหากเราติดปัญหาจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ ๆ หรือได้เปิดมุมมองที่เราไม่เคยนึกถึงเวลาเราคิดคนเดียว

- ใช้เทคนิค "Six Thinking Hats" ของ Edward de Bono เพื่อพิจารณาปัญหาจากหลากหลายมุมมอง โดยหมวก 6 ใบมีรายละเอียดโดยย่อดังนี้
หมวกสีเหลือง (Yellow Hat) - การมองโลกในแง่ดี มองหาโอกาสอย่างมีความหวัง
หมวกสีเขียว (Green Hat) - การมีไอเดียมีความคิดสร้างสรรค์
หมวกสีแดง (Red Hat) - การแสดงออกโดยสัญชาตญาณ อารมณ์ความรู้สึก ไม่ใช้เหตุผล
หมวกสีขาว (White Hat) - การใช้เหตุและผล คิดแบบมีหลักการ
หมวกสีดำ (Black Hat) - การมองโลกในแง่ร้าย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
หมวกสีน้ำเงิน (Blue Hat) - การบริหารจัดการเพื่อให้ได้แนวทางและข้อสรุปที่นำไปสู่เป้าหมาย
ขอขอบคุณและสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของเทคนิค "Six Thinking Hats" จากบทความนี้ https://www.popticles.com/self-development/six-thinking-hats/
เคล็ดลับที่ 3 - แบ่งงานเป็นส่วนย่อย
- ใช้เทคนิค "Divide and Conquer" โดยแยกงานใหญ่เป็นงานย่อยๆ
- เริ่มจากส่วนที่ง่ายที่สุดก่อน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและโมเมนตัม
ถ้าเปรียบเทียบกับการวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร หากมองว่ากำลังวิ่งด้วยระยะทางนี้อาจท้อได้ ให้มองว่ากำลังวิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร อีก 8 ครั้ง และ 2.195 กิโลเมตร อีก 1 ครั้ง ซึ่งถ้าเปรียบกับการเขียนวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัย หมายถึงกำลังเขียนงานทีละหัวข้อ และทีละบท เมื่องานย่อยเสร็จแล้วแต่ละส่วนก็อย่าลืมพักเพื่อชาร์จพลังและลุยต่อ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เรียนให้สามารถ "เขียนออก"
เขียนไม่ออกบอก Rover AI
iThesis Add-in เชื่อมต่อกับ Paperpilot เพื่อใช้งาน Rover AI ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบและปรับปรุงข้อความ ลงทะเบียน Paperpilot วันนี้ รับฟรี 100 ข้อความ เชื่อมบัญชีไอทีสิส รับอีก 100 ข้อความ
ดาวน์โหลด Paperpilot คลิกที่นี่ https://paperpilot.onelink.me/qmhZ/xje0q3y3

เขียนเล่มจนดึก ไม่รู้จะถามใคร ถามเราได้ iThesis Line Official Account

สามารถกดเพื่อเพิ่มเพื่อนได้ที่นี่ 👉 https://lin.ee/3gAUHWL
ช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับระบบไอทีสิส
Email: contact@ithesis.co
Comments